วันนี้เค้าจะมาเม้าส์มอยยยย ค่ะทุกคน
หลังจากไป UP หน้ามา คิคิ
ส่วนตัวแล้ว ไม่ได้เป็นคนที่มีเนื้อบริเวณหน้าเยอะ
แต่เป็นคนมีแก้มช่วงล่างย้อย
ก็อาศัยการทำทรีทเม้นต์ หรือนวดหน้าตัวเองเวลาลงครีมนั่นเองค่ะ
แต่วันนี้เค้าได้เปิดโลกใหม่ให้แก้มล่างของตัวเอง ๕๕๕๕๕
เพราะได้ค้นพบโปรโมชั่นนี้ แถมเค้ายังบอกอีกด้วยว่า
ตัวนี้ไม่เจ็บเหมือน HIFU ปกติและไม่ต้องลงยาชาก่อนทำเลยด้วย
วันนี้เค้าจะมา เม้าส์ ถึงโปรแกรม UP
ที่เค้าไปทำที่ Playground Clinic มานั่นเองค่ะ
คลินิกนี่อยู่ฝั่งตรงข้าม Big C Extra ลาดพร้าวนะคะ
ข้ามสะพานลอยจากฝั่งบิ๊กซีลงมาทางซ้าย หาไม่ยากเลย ติดถนนเลยคร่าาา
หลังจากมาถึง ขอแอบเม้าส์ถึงคลินิกนิดหน่อย ก่อนเข้าเรื่องกัน
หลังจากเปิดประตูเข้าไป เค้าแอบบอกเลยว่า
เค้าหลงรักที่นี่มากกกกกกก ~ คือ ความสงบที่แท้
เมื่อเรามาถึงแล้ว พี่ๆ เค้าก็จะเอา Welcome Drink มาให้ค่ะ
ซึ่งปกติ ตองก็เคยไปเข้าสถาบันความงามมาบ้าง
แต่ยังไม่เคยเจอที่ไหน ทำน้ำ Infused Water ให้ดื่มมาก่อนเลย
สำหรับที่นี่ เค้าก็จะเทน้ำแร่ที่เป็น sparkling water ลงไปในขวดที่เค้าฝานผลไม้บางๆ มา
และเราก็จะดื่มได้เลย + มีหญ้าหวานให้ผสม เผื่อใครอยากได้รสหวานๆ นั่นเอง
ตั้งแต่เดินเข้าร้านมา
แค่ทางเดิน กับ Welcome Drink ตองนี้หุบยิ้มไม่ได้เลยค่ะ
ระหว่างนั้น ก็นั่งรอเพื่อเข้าไปคุยกับคุณหมอ นั่นเองค่ะ
เพราะสำหรับ โปรแกรม UP นี้ คุณหมอจะเป็นคนทำ เลยต้องนัดวันมาก่อนนะคะ
แต่สามารถ Walk-in ได้คร่า ( คุณหมอไม่ได้เข้าทุกวัน )
ที่สำคัญที่เห็นเค้านั่งเล่นคนเดียวเพลินแบบนี้ เพราะทางคลินิค
ล็อคคิวในแต่ละวันให้ไม่แน่น ทำให้เราไม่ต้องรอนานๆเลยด้วย
เม้าส์ถึงคลินิคกันไปเบาๆ แล้ว เดี๋ยวมาเริ่มทำหน้ากันเลยดีกว่า
แล้วจะแอบขอเอารูปในคลินิคมาฝากตอนท้ายอีกที เพราะเค้าหลงรักสุดๆ ไปเลย
แต่ก่อนที่จะเข้าไปทำหน้า เค้าจะให้เลือกผลไม้ 3 ชนิด ก่อนเข้าไปด้วยน๊าา
เลือกเสร็จ ก็เข้าไป SANOOK ROOM นั่นเองจ้าาาาาาาาาา
สำหรับโปรแกรม UP เค้าเป็นตัวที่ช่วยยกกระชับ
ที่สามารถทำบริเวณหน้า หรือสัดส่วนอื่นๆ ก็ได้นะคะ
เค้าเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ไม่เหมือน HIFU ตัวเดิม!!!!!
เพราะไม่เจ็บ และสามารถยิงได้ทั่วหน้า แบบไม่จำกัด DOT ด้วยนะจ๊ะ
แล้วคุณหมอก็จะดูหน้าเราโดยรวมว่าโครงหน้าเราเป็นยังไง
มีปัญหาตรงไหนบ้างนะคะ
ซึ่งสำหรับตอง คุณหมอบอกว่า เป็นคนที่มีกรอบหน้าชัดอยู่แล้ว
แต่ส่วนตัว อยากให้กรอบหน้าชัดกว่านี้ เพราะเลิฟกรามชัดๆมากกว่า
ไม่มีจุดตัดระหว่างกรอบหน้ากับเหนียงนั่นเอง ๕๕๕๕๕
คุณหมอก็บอกว่า แก้มด้านล่างจะห้อยๆ ซึ่งอันนี้สังเกตุเห็นด้วยตัวเองอยู่แล้ว
และแก้มด้านซ้าย มีเนื้อ หรือ FAT เยอะกว่าด้านขวานั่นเอง
ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ การนอนตะแคง ก็เป็นเหตุ
แรงโน้มถ่วงโลก ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ๕๕๕๕
และก่อนที่จะทำ คุณหมอ ก็จะอธิบายให้ฟังถึงตัว UP
ว่าเราจะรู้สึกยังไงระหว่างที่ทำนะคะ ใช้เวลา 30 นาทีในการทำนะคะ
พอคุณหมออธิบายทั้งหมดให้ฟังแล้วนะคะ
พี่ๆ เค้าก็จะมาคลีนหน้าก่อนที่จะเริ่มทำ ทรีทเม้นต์ค่ะ
ความใจดีของพี่เค้า คือ เหลือคิ้ว และ ตาเอาไว้ให้ค่ะ ๕๕๕๕
หลังจากคลีนหน้าเสร็จแล้ว ก็จะเริ่มลงเจล ฝั่งที่เราจะเริ่มก่อนนั่นเองค่ะ
แล้วคุณหมอก็จะเป็นคนใช้เครื่องเพื่อทำตัว UP ให้นั่นเองจ้าาาา
ของตอง คุณหมอเริ่มทำด้านซ้ายก่อน เพราะตรงแก้มมี FAT เยอะ
ก็จะเน้นๆบริเวณนี้ เยอะกว่าส่วนอื่นค่ะ
ขณะที่ทำคุณหมอจะค่อยๆ ลากตัวเครื่อง โดยที่จะกดลงบนหน้าแน่นๆ
แล้วดึงขึ้นตามกล้ามเนื้อของหน้าเราค่ะ มืออีกข้างคุณหมอ
ก็จะดึงหน้าบริเวณหน้าผากเราให้ตึงขึ้นด้วยจ้า
: ความรู้สึกขณะที่ทำ :
ถ้าพูดให้เห็นภาพในความรู้สึกตองคือ เหมือนเวลาเลเซอร์รอยสิว
แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า และยิงเข้ามาลึกกว่า
ไม่เจ็บจิ๊ดๆ แต่เวลาที่แสงยิงเข้าผิว รู้สึกได้ว่าเค้าวาปเข้ามา ลึกๆ จนถึงกระพุ้งแก้มเลย
ซึ่งคุณหมอบอกก่อนแล้วว่า อาจจะมีอาการเสียวฟันบ้าง แต่ระหว่างที่ทำทั้งหมด
เค้ารู้สึกว่า จึ๊ดๆ ตรงเหงือก แค่ 2 ครั้งเบาๆ เท่านั้นเองนะ
ตอนที่ทำทั้ง 2 ข้าง จะรู้สึกไม่เท่ากันค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
สำหรับเค้าบริเวณด้านซ้ายที่มีเนื้อเยอะกว่า จะรู้สึกวูปๆ ยิงเข้ามาในหน้าได้ดีกว่า
ข้างขวา ไม่รู้สึกเท่าค่ะ
ถามว่าเจ็บมั้ย ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น รู้สึกได้ และก็ทนได้
กดสิวเจ็บกว่านี้อีกคร่าาาา
หลังจากทำข้างแรกเสร็จ ก็ทำอีกข้างต่อเลยค่ะ ซึ่งข้างนี้ ตองชิวมากกกก
ซึ่งคุณหมอจะค่อยๆลากเครื่อง ยิงที่ละจึ๊ก ดึงขึ้นๆ จง UP UP UP ท่องไว้ในใจ ๕๕๕๕
หลังจากข้างขวาเสร็จแล้ว คุณหมอก็มาดึงๆ ตรงเหนียงให้นิดหน่อย
แล้วก็กลับมาตรงแก้มข้างซ้ายอีกที ก่อนเป็นอันเสร็จเรียบร้อยคร่าาาา
ซึ่งคุณหมอบอกว่าหลังจากนี้ จะรู้สึกเมื่อยๆหน้า ไปจนถึง 1 ชั่วโมงหลังทำ
และแนะนำให้กิน วิตามินซี กับ ไข่ขาวหลังจากนี้ค่ะ
ตอนที่พี่ๆ มาคลีนตัวเจลออก ก็แอบบอกว่า เดี๋ยวเราจะรู้สึกเมื่อยๆ
เหมือนเคี้ยวข้างเหนียวเยอะๆ ประมาณนั้น
ซึ่งหลังจากทำเสร็จปุ๊ป เค้าก็รู้สึก เมื่อยๆ นิดนึงค่ะ คล้ายๆ ที่พี่เค้าบอกเลยว่า
เคี้ยวจนเมื่อยกล้ามเนื้อ บริเวณกระพุ้งแก้มนั่นเอง
สำหรับเค้าหลังจากที่ทำรู้สึกว่า เนื้อที่ห้อยๆ ด้านซ้าย ดึงขึ้น ยกขึ้นค่ะ
บริเวณแก้มพอจับแล้ว ไม่ย้อยเหมือนปกติ จะดึงๆ และตึงขึ้น
ซึ่งจะเห็นผลได้ดี หลังจากทำ 1 เดือนค่ะ
หรือถ้าใครอยากมาทำก่อนครบ 1 เดือนก็ทำได้เลยจ้าา
แล้วพี่ๆ เค้าก็มาลงสกินแคร์ให้ โดยถามว่าเราแพ้ตัวไหนอะไรมั้ย
แต่ตัวที่เค้าลงให้ เป็นเวชสำอางชื่อดัง เพราะฉะนั้นสบายใจได้ และต่อด้วยกันแดด
ซึ่งหลังจากทำเสร็จ จะแต่งหน้าต่อในห้องนี้ ก็ได้เลยค่ะ
เพราะเค้าจะให้เราพักผ่อนได้อีกเป็น 10 - 15 นาทีเลยน๊าาา และแน่นอนว่า
ผลไม้ที่เราเลือกไปตอนก่อนเข้ามาทำทรีทเม้นต์นั้น เค้าก็ทำเป็นน้ำสกัดเย็นมาให้ค่ะ
เค้าเลือกเป็น แอปเปิ้ลเขียว + แครอท + เสาวรสไปจ้าาา
ซึ่งจะนั่งดื่มในห้องทำทรีทเม้นต์ หรือออกมานั่งตรงโซนด้านหน้าห้องทำทรีทเม้นต์ก็ได้เลยค่ะ
เค้าเลยออกมานั่งข้างนอกจ้าาา ตอนแรกว่าจะแต่งหน้าต่อ แต่ไม่แต่งละ ~
อยู่ดีๆ ก็มั่นใจขึ้นมาเลยเชียว ๕๕๕๕๕
หลังจากนั้น ไม่ถึง 1 ชั่วโมง เค้าก็ไม่รู้สึกเมื่อยบริเวณหน้าแล้วค่ะ
จะรู้สึกแค่ลึกๆ บริเวณกล้ามเนื้อ ตรงกระพุ้งแก้ม
ก่อนที่จะไปเม้าส์มอยถึงคลินิกแล้ว เดี๋ยวเค้ามาเม้าส์ความรู้สึก 2 - 3 วัน
หลังจากที่ทำให้อ่านกันค่ะ
รูปเปรียบเทียบก่อนไปทำ และหลังทำ 3 วันนะคะ
DAY 2 ( หลังจากวันที่ทำ )
จะไม่รู้สึกได้เอง แต่จะรู้สึกเวลาที่เอามือจิ้มหน้า ซึ่งวันนี้
ตื่นมาจับกรอบหน้าตัวแล้ว แล้วรู้สึกถึงกระดูกกรามได้เลย ปกติจับแล้วจะมีเนื้อนิดหน่อย
แต่วันนี้จับแล้วถึงเลย เลิฟมากกกก
ซึ่งความรู้สึกเวลาที่จับ จะรู้สึกเสียวๆ กระพุ้งแก้มได้มากสุด
ตรงกระพุ้งแก้มบริเวณใต้ๆ โหนกแก้มค่ะ
DAY 3
วันนี้ออกไปข้างนอกค่ะ สังเกตุเอง จะรู้สึกเนื้อแก้มด้านล่างข้างซ้าย
ไม่ห้อยเหมือนปกติค่ะ และเหมือนเดิมคือ จับถึงจะรู้สึกได้บริเวณใต้โหนกแก้มค่ะ
ที่สำคัญคือ เพื่อนทักว่า หน้าเรียวขึ้นใช่มั้ย ไปทำอะไรมา!!!!
มันคือความฟินแบบนี้นี่เอง ๕๕๕
พยายามหาคำมาอธิบายความเมื่อยๆ ด้านในลึกๆ
คล้ายเวลาที่เราออกกำลังกายหนักๆ แล้วหลังจากนั้น 2-3 วันเราจะรู้สึก PAIN บริเวณกล้ามเนื้อ
แต่เป็นความรู้สึกที่ฟิน ( คนชอบความรู้สึกนี้จะเข้าใจ ๕๕๕๕ )
DAY 4
เพิ่งนึกได้ว่าความรู้สึกเสียวๆ บริเวณกระพุ้งแก้ม นี้ ใกล้เคียงกับอะไรมากที่สุด
จะมีความรู้สึกเมื่อยๆจากกล้ามเนื้อ เวลาจิ้ม แต่จะรู้สึกได้บริเวณกระพุ้งแก้มได้เอง
เหมือนเวลา ที่เป่าลูกโป่งมากๆ แล้วเสียวด้านในกระพุ้งแก้ม แบบเบาๆ ค่ะ
DAY 5 - 7
รู้สึกมากสุด แค่แก้มล่างด้านซ้ายค่ะ และเวลาที่จิ้มเท่านั้น ถึงจะรู้สึก
-
: ความรู้สึกโดยรวม :
กรอบหน้าชัดขึ้นเลย เนื้อที่ห้อยบริเวณแก้มด้านล่าง เล็กลง เพราะเค้าตึงขึ้น
ส่วนตัวระหว่างที่ทำไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากเลย เพราะกดสิวเจ็บกว่ามาก
แต่เป็นความรู้สึกที่รู้สึกได้ ว่าแสง จึ๊บบบบ จึ๊บบบบ เข้ามาในเนื้อ
ใช้เวลาทำไม่นาน ส่วนตัวแล้ว พึงพอใจมากจ้าาาาาาาาาาาาาาาา
-
มาๆ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอเม้าส์ถึงคลินิค หน่อยนะคะ
สำหรับ PLAYGROUND CLINIC คือ ที่ที่เค้าไปทำวันนี้
เพราะว่า ตัว UP ที่เค้าไปทำเนี่ย มีโปรโมชั่นนั่นเองจ้าาาา
ราคาปกติครั้งละ 35,000.-
( หลายครั้งก็ราคาดี ไปอีกค่ะ 2 ครั้ง : 45,000.- | 3 ครั้ง : 55,000 )
แต่ค่ะ~~~ ที่เค้าไปทำมาเพราะโปรโมชั่นนี้จ้าาาาาา
ครั้งละ 8,990.- ( ซื้อกี่ครั้งก็ได้ ) ลองติดต่อทางคลินิคดูนะคะ
-
สำหรับคลินิค โดยรวม เอาใจเค้าไปเลย 9.99
แอบเสียจุยนิดหน่อยเพราะไม่มีที่จอดรถ แต่สามารถจอดรถฝั่งบิ๊กซีได้เลยค่ะ
หรือถ้านั่งแท็กซี่มา ก็จอดลงหน้าคลินิคได้แบบสะดวกสุดๆ ไปเลยน๊าาา
-
สำหรับคลินิค เค้าให้ 10 10 10 ไปเลยค่ะ
การตกแต่ง ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ เค้าชอบมากๆเลย
เพราะเวลาเราไปทำหน้า มันก็เป็นเวลาที่เราอยากดูแลตัวเองเนาะ
และบรรยากาศ และบริการ ดีงามเบอร์นี้ มันไม่ติดอะไรเลยยยย
บางทีเวลาไปสถาบันเสริมความงาม ก็อาจจะติดตรง เสียงจอแจ
ตกแต่งสวย แต่พอเดินไปมุมนี้ แง มีอะไรขัดหูขัดตา
ซึ่งคลินิคนี้ยังไม่มีอะไรให้เค้าติ เรื่องการตกแต่งหรือบรรยากาศเลย
ใช่ค่ะ เดินไปถึงห้องน้ำมาแล้ว ก็ไม่ขอติ ดีงามด้วยซ้ำ
สำหรับรีวิวส่วนบรรยากาศคลินิค เป็นความเห็นส่วนตัวมากๆ ที่เค้าใส่ใจเรื่องพวกนี้ ๕๕๕๕
และทางคลินิคก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เรียกได้ว่า ที่เห็นจากเพจคลินิคมายังไง ของจริงแบบนั้นเลย
บาร์ ที่ใครอยากทาน ชา กาแฟ ระหว่างรอ ก็มีให้ทาน แจ้งพนักงานได้เลยค่ะ
การตกแต่ง ที่ถ้ามากับเพื่อน ตองว่าถ่ายรูปไม่หยุด
เรียกได้ว่า ได้ทั้งหน้าสวย และการผ่อนคลายทางจิตใจไปพักใหญ่ๆ
ตอนที่อยู่ในคลินิคเลยค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ รีวิวหน้าน๊าาาาา
xoxo
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น